ส่วนประกอบในหัวแก่นตะวัน..
ส่วนประกอบในหัวแก่นตะวัน
หัวสดแก่นตะวันประกอบด้วยน้ำ 70-80% คาร์โบไฮเดรตประมาณ 15-20% โปรตีนประมาณ 1-2% แร่ธาตุ เกลือแร่ และวิตามิน สำหรับไขมันมีน้อยมาก คาร์โบไฮเดรตส่วนใหญ่ในหัวแก่นตะวันอยู่ในรูปสารโพลีเมอร์ที่เรียกว่า อินนูลิน (Inulin) และฟรุกโตโอลิโกแซคคาไรด์ (Fructooligosaccharide) ซึ่งมีตัวย่อคือ FOS อินนูลินและFOSเป็นสายโมเลกุลยาว (Polymer) ของน้ำตาลฟรุกโตส (Fructose)เหมือนกัน เพียงแต่อินนูลินมีสายโมเลกุลยาวกว่า FOS (อินนูลินมี degree of polymerization (dp) มากกว่า FOS) ระบบย่อยอาหารของมนุษย์ไม่สามารถย่อยอินนูลินและ FOS ได้ ทั้งอินนูลินและ FOS จัดเป็นใยอาหารที่ละลายน้ำได้ (Soluble Fiber )
โปรตีนในหัวแก่นตะวันประกอบด้วยกรดอะมิโนที่จำเป็น (Essential Amino Acid) เช่น asparatic acid,glutamic acid, arginine , lysine หัวแก่นตะวันเป็นแหล่งของแร่ธาตุ (mineral) และเกลือแร่ (electrolyte) ที่สำคัญได้แก่ โพแตสเซียม เหล็ก (iron) ทองแดง (copper) นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งของวิตามิน B และ C สำหรับส่วนประกอบในหัวแก่นตะวันสด 100 กรัม มีรายละเอียดตามตารางข้างล่างนี้
Principle |
Nutrient Value |
Percentage of RDA |
Energy |
73 Kcal |
3.7% |
Carbohydrates |
17.44 g |
13% |
Protein |
2 g |
4% |
Total Fat |
0.01 g |
<1% |
Cholesterol |
0 mg |
0% |
Dietary Fiber |
1.6 g |
4% |
Vitamins |
|
|
Folates |
13 μg |
3% |
Niacin |
1.3 mg |
8% |
Pantothenic acid |
0.397 mg |
8% |
Pyridoxine (B6) |
0.077 mg |
6% |
Riboflavin (B2) |
0.060 mg |
4.5% |
Thiamin (B1) |
0.200 mg |
17% |
Vitamin A |
20 IU |
<1% |
Vitamin C |
4 mg |
7% |
Vitamin E |
0.19 mg |
1% |
Vitamin K |
0.1 μg |
<1% |
Electrolytes |
|
|
Sodium |
4 mg |
<1% |
Potassium |
429 mg |
9% |
Minerals |
|
|
Calcium |
14 mg |
1.4% |
Copper |
0.140 mg |
15% |
Iron |
3.40 mg |
42.5% |
Magnesium |
17 mg |
4% |
Manganese |
0.060 mg |
2% |
Selenium |
0.7 mcg |
1% |
Zinc |
0.12 mg |
1% |
|
|
|
ที่มา : USDA National Nutrient database
USDA = U.S. Department of Agriculture
RDA (Recommended Dietary Allowance) = ปริมาณสารอาหารที่ควรได้รับในแต่ละวัน
สำหรับเมืองไทยเองก็มีการศึกษาเรื่อง Inulin และ FOS ในแก่นตะวันอยู่เหมือนกันครับ เช่นเอกสารฉบับนี้... http://www.resjournal.kku.ac.th/abstract/17_1_25.pdf
|