Bookmark and Share Add to Favorites

แก่นตะวันพืชสารพัดประโยชน์...........

 

แก่นตะวันพืชสารพัดประโยชน์

สารพัดประโยชน์กับพืชหัว “แก่นตะวัน – Jerusalem Artichoke”

ผมเชื่อว่าตอนนี้มีหลายท่านแล้วที่รู้จักพืชหัวชนิดนี้ เพราะหลายสื่อที่ออกมาพูดถึงกันโดยเฉพาะคนที่อยู่ในแวดวงสุขภาพทั้งหลาย ด้วยความหลากหลายสรรพคุณที่พบได้จาก “แก่นตะวัน” ทำให้มันกลายเป็นพืชหัวเพื่อสุขภาพไปในที่สุด มีการแปรรูปออกเป็น น้ำจากแก่นตะวัน, แคปซูลแก่นตะวัน, หรือแม้แต่ในรูปของใบชาแก่นตะวัน ฯลฯ ผมว่าอีกหน่อยคงจะได้เห็นผลิตผลที่แปรรูปออกมาหลากหลายมากขึ้นจากพืชหัวชนิดนี้…สวัสดีครับท่านผู้อ่านทั้งหลายห่างหายกันไปนานพอควรเลยทีเดียวกับการอัพเดตบล็อกแห่งนี้ แต่ก็หวังว่าจะไม่ทอดทิ้งกันนะครับ (แอบขอความเห็นใจเล็กๆ 555+) วันนี้ผมจะมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์การลิ้มลองพืชหัวชนิดนี้กันนะครับ ว่าแต่ผู้อ่านท่านใดมีประสบการณ์อย่างไร ก็นำมาแลกเปลี่ยนกันได้นะครับ เพื่อไม่ให้เสียเวลาเราไปเริ่มกันดีกว่าครับ

แก่นตะวันพืชหัวสารพัดสรรพคุณ

ภาพจาก nanagarden.com

แก่นตะวันนั้นในบ้านเรามีชื่อเรียกหลายอย่าง อาทิเช่น แก่นทานตะวัน, ทานตะวันหัว, หรือแห้วบัวตอง และชื่อภาษาอังกฤษเรียกว่า “เยรูซาเล็ม อาร์ติโช้ก (Jerusalem artichoke)” บางทีก็เรียกว่า ซันโช้ก (sunchoke) ส่วนชื่อวิทยาศาสตร์คือ Helianthus tuberosus L. เป็นพืชดอกในตระกูลดอกทานตะวัน ซึ่งมีถิ่นกำเนิดในตอนใต้ของประเทศแคนาดา และตอนเหนือของประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ด้วยความทนทานต่อสภาพภูมิอากาศจึงสามารถนำมาปลูกได้ในเขตร้อน และเขตกึ่งหนาวอย่างทวีปยุโรป ทำให้ต้น “แก่นตะวัน” เป็นที่รู้จักในหลาย ๆ ภูมิภาคทั่วโลกและยังคงเป็นที่ต้องการของตลาดโลกอีกด้วย

ลักษณะของแก่นตะวัน จัดเป็นพืชล้มลุก มีหัวสะสมอาหาร หัวเป็นตะปุ่มตะป่ำ ไม่เรียบ คล้ายหัวของขิงและข่า มีสีหลายสี เช่น สีขาว สีเหลือง สีแดง สีม่วง รับประทานได้ ผิวใบสาก ใบรีรูปไข่ บางพันธุ์มีขอบใบหยักลักษณะต้น สูง 1.5-2.0 ม. มีขนตามกิ่งและใบ ดอก เป็นทรงกลมแบน สีเหลือง คล้ายดอกทานตะวัน หรือบัวตอง ออกดอกเป็นช่อ สีเหลืองคล้ายดอกทานตะวัน มีโครโมโซมเป็น hexaploid เป็นพืชวันสั้น ช่วงแสงวิกฤตน้อยกว่า 14 ชั่วโมง การเจริญเติบโตของแก่นตะวันมีสองช่วง ช่วงแรกนับตั้งแต่ปลูกจนถึงออกดอกครั้งแรก แก่นตะวันจะสะสมอาหารในใบและลำต้น ช่วงที่สองหลังจากดอกแรกบานจนถึงระยะเก็บเกี่ยว ใบจะหลุดร่วง อาหารสะสมที่ใบถูกส่งไปที่หัว (ข้อมูลวิชาการจาก wikipedia.org) เนื่องจากเป็นข้อมูลวิชาการในบางส่วนจึงขออ้างอิงแหล่งที่มาเพื่อผู้อ่านจะได้สามารถติดตามต่อได้)

และด้วยเหตุที่แก่นตะวันมีหัวใต้ดินคล้ายมันฝรั่ง เผือกหรือแห้วนั้น จึงสามารถเก็บสะสมอาหาร ซึ่งส่วนหัวของแก่นตะวันที่ถือว่ามีสรรพคุณหรือประโยชน์อย่างมาก เพราะในส่วนหัวของแก่นตะวันนั้นจะมีสาร อินนูลิน (Inulin) มากซึ่งสารอินนูลินนี้เป็นสารประกอบของสารให้ความหวานประเภทฟรุกโตส โดยสามารถใช้แทนน้ำตาลได้ แต่ไม่สามารถย่อยสลายได้ในทางเดินอาหาร จึงไม่ให้พลังงานและไม่เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดจึงมีผลดีต่อระดับน้ำตาลในเลือดในผู้เป็นเบาหวาน หรือช่วยลดโอกาสการเป็นเบาหวานได้  นอกจากนี้อินนูลินยังมีคุณสมบัติเร่งการหลั่งของน้ำดี ขับปัสสาวะ รวมถึงสารดังกล่าวจะไปตัวช่วยในการดักจับยึดไขมันในเส้นเลือด ไม่ว่าจะเป็นคอเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ หรือ LDL (ไขมันคุณภาพต่ำ- ไขมันเลว) จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้อีกด้วย นอกจากนี้แล้วแก่นตะวันยังเป็นไยอาหารชั้นเยี่ยมที่จะช่วยกวาดล้างสารพิษและสิ่งแปลกปลอม รวมถึงสารก่อมะเร็งต่างๆ ที่เกิดจากการรับประทานอาหารตามปกติในชีวิตประจำวันของเรา ให้ขับถ่ายออกไป และยังบรรเทาอาการท้องผูกได้อีกทางหนึ่ง สำหรับผู้ที่ต้องการลดความอ้วน แก่นตะวันก็สามารถทำให้คุณได้เพราะเมื่อทานไปในระดับหนึ่งแล้วประมาณ 3-4 อาทิตย์ จะเห็นว่าน้ำหนักตัวจะค่อยๆ เริ่มลดลง นั่นเป็นเพราะสารอาหารที่มีในแก่นตะวันที่ทำให้ไม่รู้สึกหิวหรือหิวน้อยลงนั่นเอง

สรุปแบบย่อๆ ถึงประโยชน์ของแก่นตะวันมีดังนี้

  • ช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ เพราะช่วยในระบบขับถ่ายและทำความสะอาดระบบทางเดินอาหาร
  • ลดกลิ่นปากอันเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย
  • สร้างภูมิคุ้มกันโรค กระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาวและไปลดกระบวนการการทำงานของแบคทีเรียที่ไม่ดีและเพิ่มความสามารถให้แก่แบคทีเรียที่มีประโยชน์ให้เติบโตและแข็งแรง
  • กระตุ้นการดูดซึมแร่ธาตุต่างๆ หลายชนิด โดยเฉพาะแคลเซียมและธาตุเหล็กเพิ่มขึ้น
  • ลดความดันโลหิตและควบคุมระดับโคเลสเตอรอลในเลือด ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดต้นเหตุของโรคหลอดเลือดต่างๆ เช่น โรคหัวใจ เป็นต้น

ประโยชน์มากมายขนาดนี้คงอยากจะลองทานกันบ้างแล้วสินะครับ หากคุณหาในอินเตอร์เน็ตดูก็จะเห็นว่ามีเกษตรกรหลายรายที่หันมาปลูกพืชหัวตระกูลทานตะวันอย่าง “แก่นตะวัน” นี้หลายแห่งก็ลองใช้คำว่า “หาซื้อแก่นตะวันได้ที่ไหน”  “หาซื้อแก่นตะวัน” คุณก็จะพบแหล่งขายแหล่งปลูกมากมาย ลองหาดูๆ กันนะครับ สำหรับการทานนั้นก็สามารถทานได้แบบสดๆ ครับจะปลอดผิวหรือไม่ปลอกก็ได้ตามแต่สะดวก แต่สำหรับผมไม่ปลอกครับ ทานทั้งอย่างนั้นเลย แต่ต้องล้างให้สะอาดๆ นะครับเพราะอาจจะมีเศษดินติดอยู่ หรือจะนำไปปรับเปลี่ยนเป็นเมนูที่ต้องการก็ทำได้มากมาย ซึ่งผมเองหลังจากทานไปสัก 2-3 หัวในแต่ละวันพอเช้าวันถัดมาก็เข้าห้องน้ำได้สบายมากเลยครับโดยผมจะทานวันละ 3 ครั้งๆ ละ 1 หัว ก่อนอาหาร (อันนี้วิธีของผมนะส่วนท่านใดมีวิธีการใดๆ ก็แบ่งปันกันได้ครับ)

เอาล่ะครับวันนี้ก็คุยกันยาวๆ เลย ก็หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์แก่ท่านบ้างนะครับอ้อ..ผมลืมบอกไปผมซื้อมากิโลละ 180 บ. หากส่งไปรษณีย์ก็มีบวกเพิ่มอีกนิดหน่อยแล้วแต่ผู้จำหน่ายแต่ละรายนะครับ ลองหามาทานกันดูนะครับดีต่อสุขภาพจริงๆ แล้วพบกันบทความหน้านะครับ

 

http://www.chaiidentity.com/kaentavan-with-inulin.html/

 

 

 
บทความอื่นๆ ในหมวดเดียวกัน